กลโกง 101
ชวนไขความลับประวัติศาสตร์การโกง
ที่มีมายาวนานกว่า 300 ปี

 ทุกคนได้สังเกตกันไหมคะว่าช่วงนี้นอกจากสายโทรศัพท์และข้อความจากคนที่เรารู้จักรอบตัวอย่าง ครอบครัว, คนรัก และเพื่อน แล้ว ส่วนมากจะมีเบอร์แปลกโทรเข้ามาบ่อยมากขึ้นรวมถึงส่งข้อความเข้ามาทำเหมือนว่ารู้จักกันมาก่อน หรือทำเป็นทักผิดแต่สุดท้ายก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ ซึ่งพอติดตามข่าวก็ได้รู้ว่าที่แท้คนพวกนี้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ‘มิจฉาชีพ’ รูปแบบหนึ่ง ที่ใช้กลโกงรูปแบบใหม่ๆ ทำให้เราติดกับและเริ่มใช้กลลวงหลอกเราเพื่อให้เสียทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ ในที่สุดนั่นเองค่ะ สถิติล่าสุด จาก Whoscall เผยว่า ปี 2567 คนไทยถูกโทรและส่ง SMS หลอกลวงมากถึง 168 ล้านครั้ง เนื่องจากปัจจุบันมิจฉาชีพได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการหลอกลวงอย่างแพร่หลาย ทำให้กลโกงมีความซับซ้อน และมีแนวโน้มเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

วันนี้แสนสิริจึงรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ กลโกง 101 ไขความลับประวัติศาสตร์การโกง ที่พอไปค้นแล้วพบว่ามีมายาวนานกว่า 300 ปีเลยที่เดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีสูตรโกงที่พบได้บ่อยในทุกยุคสมัย เพียงแค่มีการบิดเรื่องราว หรือวิธีการที่ใช้หลอก เพื่อให้เราไม่สามารถตามทันได้เท่านั้นเองค่ะ แล้วยังพาทุกคนไปดูวิวัฒนาการของการรับมือกลโกงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยกัน เพื่อตรวจสอบด้วยกันว่าตอนนี้ทุกคนมีการป้องกันที่ถูกต้อง และมีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะปลอดภัยจากเหล่ามิจฉาชีพที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงแทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราอีกด้วยค่ะ✨ ใครเคยมีประสบการณ์โดนหลอกก็ลองแชร์เป็นประสบการณ์ที่ใต้คอมเมนต์มาได้เลยนะคะ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูด้วยกันเลยค่ะ!

รู้ทันมิจ ชีวิตปลอดภัย…เพราะภัยไซเบอร์ใกล้ตัวกว่าที่คิด แสนสิริส่งความห่วงใยให้ลูกบ้านทุกวัยปลอดภัยจากกลโกงโลกดิจิทัล ด้วย Whoscall แอปรู้ทันมิจฉาชีพ อุ่นใจได้ทุกวัน

 พิเศษสำหรับลูกบ้านแสนสิริ รับสิทธิ์ Whoscall Premium ฟรี 1 ปี (มูลค่า 890 บาท) จำนวน 3 สิทธิ์ / ครอบครัว

 ตั้งแต่ วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2569

รับสิทธิ์ผ่านแอป Sansiri Home Service หรือ ลิงก์ qrs.ly/2egzww4

รายละเอียดเพิ่มเติม www.sansiri.com/partners/whoscall

จากการจมเรือเอาเงินประกันเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล…จนถึงการหลอกโอนเงินออนไลน์ยุคนี้ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปคือ ‘กลโกงของมิจฉาชีพ’ ที่ทำให้เห็นว่าแม้สังคมและเทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวหน้าไปไกลมากแค่ไหน กลโกงของเหล่ามิจฉาชีพก็ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด

 ถ้าย้อนไปไกลถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล เราจะเจอพ่อค้าเรือกรีกชื่อ Hegestratos และ Zenosthemis ที่ซื้อประกันแล้วตั้งใจล่มเรือ เพื่อเอาเงินค่าสินไหมประกัน เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบกลโกงยุคแรกๆ ของโลกเลยก็ว่าได้

 ค.ศ. 193 ในจักรวรรดิโรมัน ทหาร Praetorian Guard “ขายตำแหน่งจักรพรรดิ” ให้ผู้ที่ประมูลสูงสุด ทั้งที่ไม่มีตำแหน่งจริงให้ครอง ถือเป็นการหลอกขายความหวังที่อาศัยอำนาจและข่าวลือเป็นเครื่องมือ

 ค.ศ. 1821 นักผจญภัยชาวสกอตแลนด์ Gregor MacGregor สร้างประเทศสมมติชื่อ “Poyais” พร้อมเรื่องเล่าที่น่าเชื่อถือ เพื่อหลอกขายที่ดินให้ชาวยุโรปจนมีคนหลงเชื่อมากมาย หนึ่งในเคสคลาสสิกการหลอกหลวงของยุค

 ค.ศ. 1911 เกิดแผนกลุ่มนักต้มตุ๋นวางแผนขโมยภาพ “Mona Lisa” และนำภาพปลอมไปขาย ทั้งที่ไม่มีภาพจริง โดยใช้ชื่อเสียงของศิลปะโลกมาสร้างเรื่องขายของปลอม

 ค.ศ. 1920 จาก Charles Ponzi สู่วิธีคิด “Ponzi scheme” หรือกลวิธีการหลอกเอาเงินจากเหยื่อคนใหม่มาหมุนจ่ายคนเก่า ที่เป็นต้นแบบแชร์ลูกโซ่ในปัจจุบัน โดยมักใช้ความไว้ใจที่ขาดมาเป็นวิธีการหลักของการหลอก

 ทศวรรษ 1960 – 70 นักต้มตุ๋นชื่อดัง Frank Abagnale Jr. ปลอมเช็คและตัวตนกว่า 8 อาชีพ จนกลายเป็นภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Catch Me If You Can ช่วยตอกย้ำว่าความน่าเชื่อถือทางสังคมในยุคนั้นคืออาวุธสำคัญของกลโกง

เข้าสู่ศตวรรษที่ 20 – ปัจจุบัน กลโกงขยายเข้าสู่โลกออนไลน์นำไปสู่การหลอกลวงผ่าน Cyber Fraud, Credit Card Fraud, Email/Phishing Scam ที่ใช้ความเร็วของข้อมูลและจิตวิทยามนุษย์โจมตี และยิ่งเทคโนโลยีพัฒนามากเท่าไหร่ กลโกงของมิจฉาชีพก็ยิ่งฉลาดตามเท่านั้น เพราะเรายังสามารถเห็นยอดผู้เสียหายอยู่เรื่อยๆ แม้จำนวนจะลดลง แต่ยอดเงินยังมีให้พบเหตุอยู่เช่นกันค่ะ

วมสูตรวิธีการโกงที่พบบ่อย จากเหล่านักช่างหลอกตัวจริง เพราะของฟรีไม่มีในโลก และแผนกลโกงยุคนี้ไม่ได้ใหม่ แต่เปลี่ยนรูปแบบให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น❗️ แสนสิริรวม 5 สูตรโกงยอดฮิตมาแกะชั้นเชิง เพื่อดูธงแดงที่ต้องสังเกตช่วยทำให้เรามีวิธีรับมือแบบทำได้ทันทีเมื่อเจอกับตัว

 Advance Fee จ่ายก่อน ได้ก้อน: เป็นกลหลอกว่าจะมีรางวัลหรือเงินก้อนโตให้  แต่เจ้าของเงินต้องโอนเงินไปให้ก่อนถึงจะได้รับ และแน่นอนว่าเป็นหลุมพลางของเหล่ามิจฉาชีพ เพราะเมื่อหลังจากโอนเงินไปก็ไม่ได้อะไรกลับมา

 Pump & Dump ปั่นและเท: หนึ่งในกลโกงที่ถูกใช้เยอะในวงการลงทุนเทรดคริปโตหรือหุ้น ที่มีการปั่นราคาในรูปแบบต่างๆ ของหุ้นที่ไม่แพงมากแต่หลอกว่ากำลังจะขึ้นราคาและให้ผลตอบรับดี ทำให้คนแห่ซื้อจำนวนเยอะจนราคาเพิ่ม ก็ทิ้งหุ้นเพื่อทำกำไร เหลือแต่คนที่เข้าไปซื้อตามที่ขาดทุน

Ponzi Scheme กลลวงปอนซี: ตั้งชื่อตาม ชาร์ลส์ พอนซี ผู้ให้กำเนิดกลลวง “เอาเงินเหยื่อคนใหม่มาจ่ายคนเก่า” โดยหลอกให้คนมาลงทุนด้วยเป็นจำนวนมาก ผ่านการจูงใจที่จะให้ผลตอบแทน 2 เท่าเมื่อลงทุนครบวันที่กำหนด แต่ความจริงคือการหลอกเอาเงินคนที่ลงทุนใหม่ไปให้คนเก่าที่ลงทุน สุดท้ายระบบพังเพราะเงินไม่พอ แต่กลลวงนี้ยังคงถูกนำมาหลอกใช้และเป็นต้นแบบของระบบแชร์ลูกโซ่ในปัจจุบัน

 กลลวงแบบ PYRAMID: หลอกให้รับสมัครสมาชิกใหม่แล้วจ่ายเงินเข้ามา อ้างว่าใช้ลงทุนในการทำธุรกิจ แต่ไม่มีสินค้า – บริการจริงๆ รายได้หลักมาจากการหลอกชวนเหยื่อเพิ่ม แล้วหมุนเงินไปให้คนเก่า ปัจจุบันพัฒนาให้มีสินค้าจริงๆ ออกมาขาย แต่ไม่สามารถขายได้จริงในตลาดจนต้องหลอกกันต่อเป็นลูกโซ่เพื่อให้คนซื้อ หรือพัฒนาไปเป็นการขายตรงนั่นเอง

Coaching Trap สอนรวยแต่ช่วยไม่ได้: เน้นการหลอกขายคอร์สหรือคำปรึกษา ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจจนผู้ฟังเชื่อและรีบตัดสินใจในการจ่ายเงินหรือลงทุนในการต่อคอร์สเพิ่ม แต่สุดท้ายไม่ได้ช่วยให้สำเร็จตามที่โฆษณา

สถิติล่าสุด จาก Whoscall เผยว่า ปี 2567 คนไทยถูกโทรและส่ง SMS หลอกลวงมากถึง 168 ล้านครั้ง ด้านกลโกงที่พบมากที่สุด ได้แก่ การหลอกขายบริการและสินค้าปลอม การแอบอ้างตัวเป็นหน่วยงาน และหลอกว่ามีเงินกู้อนุมัติง่าย การหลอกทวงเงิน การหลอกว่าเป็นหนี้

ากมิตรสู่มิจ(ฉาชีพ) จึงต้องคิด วิวัฒนาการรับมือกลโกง เพราะการโกงนั้นเก่าแก่พอๆ กับอารยธรรม แต่วิวัฒนาการการรับมือกลโกงของมนุษย์ไม่เคยหยุดนิ่ง และมีมายาวนานตั้งแต่ยุคโบราณ เพื่อเป็นวิธีป้องกันและเกราะคุ้มกันสังคม

ยุคโบราณ

สังคมพึ่งพากฎหมายท้องถิ่นและบทลงโทษทางอาญาอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างแรงกดดันทางสังคมให้คนไม่กล้าทำผิด ทำให้กฎหมายและบทลงโทษหนักคือกลไกสำคัญ เพราะยังไม่มีเทคโนโลยีหรือระบบตรวจสอบที่ซับซ้อน

ยุคกลางถึงยุคใหม่

เมื่อการค้าเริ่มเฟื่องฟูมากขึ้น โลกจึงพัฒนาระบบบัญชีคู่และการตรวจสอบบัญชี (auditing) เพื่อเช็กความถูกต้องย้อนหลัง นี่คือจุดเริ่มต้นของ “การควบคุมทางการเงิน” ที่ช่วยให้ธุรกิจและรัฐปิดช่องโหว่ และเป็นรากฐานของการตรวจสอบภายในในปัจจุบัน

 ศตวรรษที่ 20

สังคมการเงินสมัยใหม่ก้าวกระโดด มีการสร้างระบบเครดิต, เอกสารทางการเงิน, กฎหมายด้านการลงทุน และระบบตรวจสอบบัตร เพื่อสกัดการฉ้อโกงในตลาดทุนและธุรกิจข้ามชาติ มาตราการทางกฎหมายถูกยกระดับให้เป็นสากลมากขึ้น เพราะความเสียหายเริ่มขยายจากท้องถิ่นไปสู่ระดับโลก

 ศตวรรษที่ 21

การเข้าสู่ยุคดิจิทัลเปลี่ยนการจับกลโกงไปอีกขั้น โลกออนไลน์ทำให้มิจฉาชีพมีช่องทางใหม่ๆ ทั้งการขโมยข้อมูล, การเปิดบัญชีปลอม และการโจมตีผ่านไซเบอร์ จึงต้องพัฒนาวิธีการป้องกัน.shล้ำขึ้น เช่น ระบบยืนยันตัวตน KYC/KYB, Cloud Security, และเครื่องมือยืนยันตัวตนแบบดิจิทัลเพื่อหยุดการปลอมแปลงตั้งแต่ต้นทาง

 ปัจจุบัน

AI และ Biometric authentication กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการต่อสู้กับกลโกง ไม่ว่าจะเป็นการสแกนหน้า, สแกนนิ้วมือ, หรือระบบการใช้ AI ตรวจจับพฤติกรรมการโกงแบบเรียลไทม์ ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลและจับสัญญาณผิดปกติที่มนุษย์ไม่ทันสังเกตทัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมข้อมูลและการทำธุรกรรมปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่เราจะเห็นชัดคือ กลโกงไม่เคยหยุดพัฒนาและเครื่องมือป้องกันก็ต้องพัฒนาไม่หยุด สำคัญที่สุด คือ “อย่าหยุดเรียนรู้” เพราะเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่กฎหมายหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่คือ สติและความรู้เท่าทันของเราเอง

รู้ทันมิจ ชีวิตปลอดภัย…ในยุคที่ภัยไซเบอร์ใกล้ตัวกว่าที่คิด โทรศัพท์เพียงหนึ่งสายหรือ SMS เพียงหนึ่งข้อความ อาจกลายเป็นประตูสู่การสูญเสียได้ 

แสนสิริส่งความห่วงใยให้ลูกบ้านทุกวัยปลอดภัยจากกลโกงโลกดิจิทัล ด้วย Whoscall แอปรู้ทันมิจฉาชีพ อุ่นใจได้ทุกวัน เพราะเราเชื่อว่าชีวิตที่ดีต้องมาพร้อมความปลอดภัยที่มากกว่า

 พิเศษสำหรับลูกบ้านแสนสิริ รับสิทธิ์ Whoscall Premium ฟรี 1 ปี (มูลค่า 890 บาท) จำนวน 3 สิทธิ์ / ครอบครัว

 ตั้งแต่ วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2569

รับสิทธิ์ผ่านแอป Sansiri Home Service หรือ ลิงก์ qrs.ly/2egzww4

💡รายละเอียดเพิ่มเติม www.sansiri.com/partners/whoscall 

 

CONTRIBUTOR

Related Articles

Young Successor ชวนเปิดอาชีพคนรุ่นใหม่ที่กล้าใช้ชีวิต เดินเส้นทางสู่ความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย!

หลังผ่านช่วงยุคของโควิด – 19 มา เรียกได้ว่าหลายประเทศทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงด้านวิธีการทำงานกันเยอะเลยใช่ไหมคะ ยิ่งช่วงปีที่เราสามารถออกมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติแบบไม่ต้องใช้วิธีการแบบ New Normal แล้ว ปี 2025 เรียกได้ว่าเป็นปีที่โลกการทำงานเปลี่ยนเร็วในแบบที่เปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ก้าวสู่ความสำเร็จได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเหล่า Young Successor เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะสามารถเริ่มทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านหน้าจอออนไลน์ เชื่อมกันได้ง่ายแม้อยู่กันคนละทวีป นอกจากนี้สายงานในปัจจุบันก็ไม่ตายตัวอีกต่อไป สามารถสร้างรายได้จากหลายทางพร้อมกัน

รวมตัวเต็ง Oscar สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผ่านสัญญะที่ซ่อนไว้สุดตึง

 ใครเป็นคอหนังรางวัลมารวมกันตรงนี้ บอกเลยว่าปีนี้เป็นอีกปีที่เราได้ดูหนังสนุกๆ กันหลายเรื่องจากหลากหลายเวทีรางวัลกันมาก และมาถึงอีกรางวัลใหญ่ที่ใครหลายคนรอคอยกันอย่าง ‘ออสการ์’ ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อยค่ะว่าทุกคนเชียร์ภาพยนตร์เรื่องไหนให้มงลงกันบ้าง แล้วจะพลิกโผหรือเป็นไปตามที่ทุกคนคิดไหมนะ วันนี้แสนสิริเราคัดลิสต์ตัวเต็งรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาฝากทุกคนกันค่ะ เพราะทุกตัวละคนในเรื่องมีสัญญะบางอย่างที่ซ่อนไว้อย่างสุดตึง ไม่ว่าจะมิติตัวละครหรือการดำเนินเรื่องในบทภาพยนตร์ที่น่าสนใจไม่หลากหลายมุมของสังคม คัดกันมาแล้วว่านี่แหละเต็งและตึงที่สุด! อยากลองพาทุกคนมารู้จักมิติของภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ที่สุดของออสการ์กันว่ามีเรื่องราวและสัญญะอะไรซ่อนไว้บ้างในเรื่องราวภาพยนต์มากรางวัลเหล่านี้ ลองมามองกันให้ลึกยิ่งขึ้นเพื่อเข้าใจและเพิ่มอรรถรสในรสชาติของการรับชมภาพยนตร์เหล่านี้มากขึ้นไปอีกขั้นกันค่ะ ถ้าใครมีภาพยนตร์เรื่องอื่นในปีที่ผ่านมาที่น่าสนใจแต่ไม่ได้เข้าชิง ก็มาแนะนำหรือพูดคุยกันได้ที่คอมเมนต์ใต้ภาพนี้ได้เลยนะคะ จะมีเรื่องตัวเต็งและสุดตึงอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ! ถ้าใครกำลังมองหาพื้นที่สำหรับผ่อนคลายในวันหยุดแบบนี้ สำหรับนอนดูหนังรางวัลทั้งหมดก่อนวันประกาศรางวัลไปจนหมดวันได้อย่างสุขกายสบายใจ

เรื่องราวชีวิตจริงบนจอของเหล่าตัวละคร ‘คนธรรมดา’ สู่ ‘มหาเศรษฐี’

ถ้าย้อนเวลากลับไปช่วงยุค 80s – 90s นอกจากภาพยนตร์และซีรีส์แนว coming of age / romcom ที่เรียกได้ว่าเป็นพล็อตแห่งยุคแล้ว อีกแนวที่ถูกถ่ายทอดออกมามากไม่แพ้กันคือเรื่องที่มัก Based on a True Story โดยเกินครึ่งถูกสร้างจากเรื่องจริงของชีวิตคนจริงๆ อีกด้วย และหลายเรื่องยังสามารถคว้ารางวัลมากมายมาครอบครองได้